บทหนึ่งเกี่ยวกับการดำรงอยู่ในปัจจุบันของ "ทะเลสีเขียว" แห่งไทกา ทรัพยากรอันมีค่าที่มอบให้แก่มนุษยชาติ และเหตุผลที่มันต้องการความสนใจและการดูแลจากพวกเรา...
ดินแดนไซบีเรียนั้นงดงามและทรงพลังดุจเดียวกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ป่าไทกาไซบีเรียชวนให้เรารู้สึกเกรงขามทางจิตวิญญาณและเกิดอารมณ์อันลึกซึ้งอยู่เสมอ แม้ว่าคุณจะไม่เคยไปเยือนที่นั่นเลยก็ตาม เพียงแค่คิดถึงป่าไทก้าอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ทอดตัวยาวเหยียดถึงเก้าพันกิโลเมตรแค่นั้นก็สร้างความประทับใจอันทรงพลังได้แล้ว และคุณจะรู้ได้ว่า ป่าแห่งนี้ไม่ใช่แค่ผืนป่าขนาดใหญ่แต่มีอะไรมากกว่านั้น
ป่าไทก้าไซบีเรียนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น "ปอดของโลก" จากเหล่านักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนให้กับซีกโลกเหนือทั้งยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่ทำให้ป่าไทก้าไซบีเรียมีความโดดเด่นคือเป็นพื้นที่ที่มีความผันผวนของอุณหภูมิรุนแรงที่สุดในโลก ทรัพยากรอันมีค่าของป่าแห่งนี้ ที่มีต่อมวลมนุษย์ ได้แก่ ไม้เนื้อแข็งคุณภาพเยี่ยม แหล่งแร่ธาตุที่มีคุณค่า แม่น้ำที่เปล่าเปลี่ยว พืชสมุนไพรหายากและสัตว์ป่าหลากหลายชนิด
เขตย่อยของป่าไทก้าไซบีเรีย
ป่าไทก้าไซบีเรียสามารถแบ่งออกเป็น เขตย่อย 3 เขต โดยแต่ละเขตมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันในด้านสภาพอากาศ การมีชั้นดินเยือกแข็ง พืชพรรณ และสัตว์ป่า
ทุ่งไทก้าเหนือตั้งอยู่บริเวณชายแดนทุนดราไปจนถึงบริเวณด้านใต้ของคาบสมุทรไทเมียร์ และมีชื่อเสียงในด้านสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย ภูมิภาคนี้ ต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่ยาวนานโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยลดลงฮวบฮาบถึง -30 องศาเซลเซียส ถึง -50 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฤดูร้อนนั้นสั้น โดยมีอุณหภูมิสูงสุด อยู่ที่ประมาณ +17 องศาเซลเซียส ที่น่าสังเกตคือ ในป่าไทก้า อุณหภูมิในฤดูร้อนนั้นสำคัญมาก เนื่องจากการมีต้นไม้นั้นขึ้นอยู่กับการมีอย่างน้อย หนึ่งเดือนในฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยเกินกว่า +16 องศาเซลเซียส สภาพพื้นที่ของเขตย่อยด้านเหนือ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม ส่งผลให้มีป่าสนเขาเตี้ยปกคลุมพื้นที่เป็นส่วนใหญ่
ทุ่งไทก้ากลาง ตั้งอยู่บริเวณภาคกลาง เลียบแม่น้ำเยนีเซย์ แม่น้ำออบ และแม่น้ำเลนา มีลักษณะเฉพาะด้วยภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีปที่มีความอบอุ่นปานกลาง โดยมีฤดูหนาวที่หนาวจัดและฤดูร้อนที่อบอุ่น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าพรุ และป่าสนหนาแน่นโดยเฉพาะป่าสปรูส
ทุ่งไทก้าใต้ครอบคลุมพื้นที่ทางใต้ของไซบีเรีย มีสภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่น เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของต้นสน พื้นที่แถบนี้มีลักษณะเด่นคือพืชพรรณและสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ฤดูหนาวในภูมิภาคนี้ มีอากาศหนาวจัดและยาวนาน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ -12 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฤดูร้อนนั้นสั้นและอบอุ่น โดยมีอุณหภูมิตั้งแต่ +16 องศาเซลเซียสถึง +22 องศาเซลเซียส
พืชพรรณของป่าไทก้า
ป่าไทก้าไซบีเรียแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามชนิดของต้นไม้ที่เด่นคือป่าสนเข็มทึมและป่าสนเข็มโปร่ง ป่าสนเข็มทึมประกอบด้วย สปรูส เฟอร์เงิน และซีดาร์ ลักษณะเด่นของป่าไทก้าทางภาคเหนือของไซบีเรียคือสภาพแวดล้อมที่มืดตลอดเวลา เนื่องจากเรือนยอดของต้นไม้ที่ปกคลุมอยู่นั้นช่วยบังแสงแดด ทำให้มอสและพืชล้มลุกสามารถเจริญเติบโตได้
หนึ่งในต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในป่าสนเข็มทึมคือซีดาร์ไซบีเรียต้นไม้ยักษ์นี้สามารถสูงได้ถึง 40 เมตร แม้ว่าอัตราการเจริญเติบโตจะค่อนข้างช้าก็ตาม ถั่วสนไม่เพียงแต่เป็นอาหารอันโอชะที่ได้รับความนิยมสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารโปรดของสัตว์ป่าหลายชนิดในป่าไทก้ารวมถึงหมีสีน้ำตาล ในป่าสนเข็มทึม เฟอร์เงิน ที่มีลักษณะคล้ายกรวยเทียนซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์และความลึกลับให้กับภูมิทัศน์ ต่างจากซีดาร์ที่เติบโตเร็วและมีอายุยืนยาวถึง 400–600 ปี สำหรับพวกเราแล้ว เฟอร์เงินมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากมีคุณสมบัติทางยาที่มีประสิทธิภาพ
ป่าสนเข็มโปร่งเป็นชนิดของป่าไทก้าที่พบได้มากในไซบีเรียกลางและตะวันออก ป่าไทก้าประเภทนี้มีลักษณะเด่นคือการเจริญเติบโตของต้นสนและต้นลาร์ช นอกจากนี้ยังมีพืชพรรณที่หลากหลาย รวมถึงต้นเบิร์ชแคระ ป่าออลเดอร์ และพุ่มไม้ต่าง ๆ ภายในป่าสน มียอดไม้สูงที่ให้แสงแดดส่องผ่านอย่างเพียงพอ สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับพุ่มแครนเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ สมุนไพรหายาก และเห็ดจำนวนมาก
ต้นสน เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีแดดและแสงสว่างเพียงพอ โดยทั่วไปแล้ว ต้นสนไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพอากาศและสภาพดิน ซึ่งนี่เองที่เป็นปัจจัยให้ต้นสน กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก
ลาร์ชโดดเด่นในฐานะต้นไม้ที่ทนต่อความหนาวเย็นได้มากที่สุดในป่าไทกา โดยสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส ลักษณะเด่นของพืชชนิดนี้คือลำต้นที่ตรงมากเป็นพิเศษ สามารถสูงได้ถึง 50 เมตร และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว โดยเพิ่มความสูงประมาณ 1 เมตรต่อปี ป่าลาร์ชมีแสงแดดส่องผ่านได้มากกว่าป่าสน อีกทั้งยังมักมีกลิ่นหอมของสนที่น่ารื่นรมย์เมื่อยางไม้ได้รับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์
สัตว์ป่าแห่งป่าไทก้า
ป่าไทก้าของไซบีเรียเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และขนาดเล็กหลายชนิดที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายได้สำเร็จ ราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งป่าไทก้าไซบีเรียคือหมีสีน้ำตาล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการจำศีลในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ป่าไทกายังเป็นที่อยู่อาศัยของหมาป่า แมวป่า สุนัขจิ้งจอก กวางเรนเดียร์ กวางมูซ และตัวเซเบิลไซบีเรีย
โลกของนกในป่าไทกามีความหลากหลายมาก โดยนกส่วนใหญ่เป็นนกอพยพ นกคาเปอร์เคลลี นกนัทแครกเกอร์ นกทรัชไซบีเรีย นกฮูก และนกหัวขวานพบได้ทั่วไปในป่าไทกา และกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมแห่งนี้ ป่าไทกายังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ที่อยู่ในบัญชีแดง เช่น นกกระเรียนหัวดำ นกกระสาดำ และนกอินทรีทอง
มนุษย์กับป่าไทก้า
ป่าไทก้าในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการตัดไม้ทำลายป่าที่ไร้การควบคุมและไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่มักเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งส่งผลให้สูญเสียพืชและสัตว์ป่าไปเป็นจำนวนมาก แม้ป่าไทกาไซบีเรียจะมีพลังอำนาจมากเพียงใด แต่ก็ต้องการการปกป้องและความสนใจจากพวกเรา ป่าเหล่านี้มีอายุนับล้านปีแต่กลับถูกทำลายได้ง่ายดายและยากมากที่จะสร้างขึ้นใหม่
ป่าไทก้าไซบีเรียอุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีค่าสำหรับมนุษย์ เช่น ไม้เนื้อแข็ง ขนสัตว์ น้ำมันสน ถั่วและผลเบอร์รี่ เราควรแสดงความขอบคุณป่าแห่งนี้และดูแลรักษาอย่างมีความรับผิดชอบ เนื่องจากป่าไทก้ามีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อและความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเรา
ผลิตภัณฑ์หลายชนิดของ Siberian Wellness มีส่วนผสมจากวัตถุดิบธรรมชาติอันเป็นของขวัญที่ป่าไทก้าไซบีเรียมอบให้เราตัวอย่างเช่น
– บาล์มนวดสูตรเข้มข้นพิเศษ (น้ำมันเฟอร์เงิน และน้ำมันสน)